Monday, September 24, 2018

# ความหมาย ประวัติและความเป็นมาของเครื่องหอม


ความหมายของคำว่า เครื่องหอมตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน (2525 :195) ได้ให้คำจำกัดความไว้ว่า เครื่องหมายถึง สิ่ง สิ่งของ สิ่งที่สำหรับประกอบกัน หรือเป็นพวกเดียวกัน ส่วนคำว่า หอมหมายถึง ได้รับกลิ่นดี กลิ่นหอม เครื่องหอมหมายถึง สิ่งที่นำมาประกอบกันแล้วมีกลิ่นหอม
 

ความหอมเป็นมนต์เสน่ห์สำหรับมนุษย์ ผู้ที่ชื่นชมใน รูป รส กลิ่น เสียง ในชนทุกระดับชั้นต่างหาสิ่งหอมมาประทินผิวกาย เพื่อสร้างความพึงพอใจให้แก่ตนเองและผู้ชิดใกล้ ในรูปลักษณะที่แตกต่างกันออกไปอาทิเช่น หาดอกไม้มาแซมผม นำความหอมของไม้ยางมาปรุง อบร่ำในเสื้อผ้า อาหาร ทาผิวกาย เครื่องหอมต่าง ๆ ของไทยมีมาแต่โบราณกาลโดยทำขึ้นมาใช้เองจากวัสดุและสมุนไพรหอมที่ปลูกในเมืองไทย และสืบทอดต่อ ๆ มาตามคำบอกเล่า มิได้บันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษรใด ๆ

จากการศึกษาประวัติความเป็นมาของเครื่องหอมใน ENCYCLOPAEDIA หลายเล่ม ไม่มีการบันทึกการสกัดน้ำหอมจากดอกไม้ว่า เริ่มตั้งแต่เมื่อใดนอกจากจะกล่าวถึงสมัยโบราณ มนุษย์เผาไม้หอมบางชนิดที่มียางและมีกลิ่นหอมในพิธีทางศาสนาปรากฏว่ากลิ่นที่ลอยมากับควันอันอบอวลอยู่ในบริเวณงาน ได้สร้างความพึงพอใจให้แก่ผู้ร่วมงานเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ พวกเขายังเอาของเหลวที่ไหลซึมออกมาจากไม้ที่เผา มาจุ่มน้ำและน้ำมันแล้วนำมาลูบถูตามร่างกายทำให้กลิ่นหอมติดตัวทนนาน ณ จุดนี้เป็นที่มาของน้ำหอมฝรั่งเศส ตั้งชื่อเครื่องหอมผ่านควันไฟนี้ว่า PERFUME ซึ่งมาจากภาษาลาตินสองคำคือ PER แปลว่า THROUGH หรือ ผ่าน และ FUME แปลว่า SMOKE หรือควัน

ชาวอียีปต์ได้ค้นพบเครื่องหอมนี้กว่า 3 พันปีล่วงมาแล้วในสมัยฟาโรห์ ต่อมาพวกกรีกและโรมันเรียนรู้เครื่องหอมจากอียีปต์ และในต้นคริสต์ศตวรรษที่ 12พวกคริสต์เตียนที่มาทำสงครามศาสนา (CRUSADERS) ได้นำเครื่องหอมจากดินแดนปาเลสไตน์ ไปยังอังกฤษและฝรั่งเศส จากนั้นไม่นานจึงได้มีการค้าขายเครื่องเทศและเครื่องหอมกันอย่างกว้างขวาง ระหว่างตะวันออกกับยุโรป และในศตวรรษที่ 15 น้ำหอม (PERFUME) กลายเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายในยุโรป

แต่หลักฐานบางตำราอ้างว่า ในสมัยโบราณชาวจีน ฮินดู อียิปต์ อิสราเอลอาหรับ กรีก และ โรมัน ได้รู้จักและเรียนรู้ศิลปะของการทำเครื่องหอมมานานแล้ว แม้ในคัมภีร์ไบเบิ้ลก็ปรากฎว่ามีสูตรของการทำน้ำหอมอยู่ด้วย

เครื่องหอม ของหอม เป็นส่วนประกอบที่สำคัญในเครื่องสำอางทุกชนิด ยกเว้นเครื่องสำอางของผู้เป็นโรคภูมิแพ้ ผิวหนังแพ้ง่ายจำเป็นจะต้องใช้เครื่องสำอางพวก NON-ALLERGENIC ซึ่งผลิตขึ้นมาเป็นพิเศษ 

ที่มา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ วิทยาเขตวังไกลกังวล
http://www.kkw.rmutr.ac.th/thai/thaidept/h1.pdf


No comments:

Post a Comment